
ภาพยนตร์เรื่อง “Easy Rider” เล่าเรื่องราวของนักขี่มอเตอร์ไซค์สองคนคือ ไวแอตต์ (ปีเตอร์ ฟอนดา) และ บิลลี่ (เดนนิส ฮอปเปอร์) ที่เดินทางข้ามประเทศจากลอสแอนเจลิสไปยังนิวออร์ลีนส์เพื่อเข้าร่วมงานเทศกาลมาร์ดิกราส์ พวกเขาขายยาเสพติดเพื่อเป็นทุนในการเดินทางและได้พบกับผู้คนหลากหลายระหว่างทาง รวมถึงทนายความขี้เหล้าชื่อ จอร์จ แฮนสัน (แจ็ค นิโคลสัน) ที่ร่วมเดินทางไปด้วย ระหว่างการเดินทาง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอคติและความรุนแรงในสังคมอเมริกัน สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งทางวัฒนธรรมและความรู้สึกไม่เป็นอิสระในช่วงปลายทศวรรษ 1960
เรื่องย่อโดยละเอียด:
ไวแอตต์และบิลลี่ ขี่มอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์ เดวิดสันคู่ใจ ออกเดินทางจากลอสแอนเจลิส พวกเขาวางแผนที่จะไปถึงนิวออร์ลีนส์ทันเทศกาลมาร์ดิกราส์ ระหว่างทาง พวกเขาขายโคเคนที่ได้มาจากการซื้อขายอย่างลับๆ เพื่อเป็นทุนในการเดินทาง พวกเขาได้พบกับผู้คนมากมาย ทั้งที่เป็นมิตรและไม่เป็นมิตร รวมถึงจอร์จ แฮนสัน ทนายความที่ติดเหล้า ซึ่งได้ร่วมเดินทางไปด้วย
การเดินทางของพวกเขาไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น พวกเขาถูกจับในข้อหา “การจราจรผิดกฎหมาย” และถูกคุมขังชั่วคราว เมื่อได้รับการปล่อยตัว พวกเขาได้พบกับกลุ่มคนในชนบทที่มองพวกเขาด้วยความหวาดระแวงและรังเกียจ ในที่สุด พวกเขาก็ได้พบกับผู้คนที่เปิดใจกว้างและเข้าใจในวิถีชีวิตของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้ากับความรุนแรงและอคติยังคงมีอยู่ตลอดการเดินทาง การที่พวกเขาเป็น “ฮิปปี้” และมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ ทำให้พวกเขาถูกมองว่าเป็นคนนอกและเป็นภัย ในที่สุด ความรุนแรงก็มาถึงจุดจบเมื่อพวกเขาถูกทำร้ายและเสียชีวิตในระหว่างการเดินทาง
ประเด็นสำคัญของเรื่อง:
- การเดินทางเพื่ออิสระ:ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแสวงหาอิสรภาพของคนหนุ่มสาวในยุค 1960s
- ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม:การเผชิญหน้ากับความแตกต่างทางวัฒนธรรมและอคติในสังคมอเมริกัน
- ความรุนแรงและการสูญเสีย:การสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมและการสูญเสียที่ตามมา
- การต่อต้านระบบ:การแสดงออกถึงการต่อต้านระบบและค่านิยมเดิมๆ
- ความเปราะบางของชีวิต:การแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของชีวิตและการเผชิญหน้ากับความตาย
“Easy Rider” ถือเป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนภาพสังคมในช่วงปลายทศวรรษ 1960s และเป็นที่จดจำในฐานะภาพยนตร์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด