สถิติแบ่งออกเป็น ประเภทคือ
- สถิติพรรณนา (Descriptive Statistics) เป็นสถิติทีใช้อธิบายคุณลักษณะของสิงที่ต้องการศึกษากลุ่มใดกลุ่มหนึง ไม่สามารถอ้างอิงไปยังกลุ่มอืน ๆ ได้ สถิติทีอยู่ในประเภทนี เช่น ค่าเฉลีย ค่ามัธยฐาน ค่าฐานนิยม ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน ค่าพิสัย ฯลฯ
- สถิติอ้างอิง (Inferential Statistics) เป็นสถิติทีใช้อธิบายคุณลักษณะของสิงทีต้องการศึกษากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือหลายกลุ่ม แล้วสามารถอ้างอิงไปยังกลุ่มประชากรได้ โดยกลุ่มทีนํามาศึกษา
จะต้องเป็นตัวแทนทีดีของประชากร ตัวแทนทีดีของประชากรได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่าง และตัวแทนที
ดีของประชากรเรียกว่ากลุ่มตัวอย่าง สถิติอ้างอิงสามารถแบ่งออกได้เป็น ประเภท คือ- สถิติมีพารามิเตอร์ (Parametric Statistics) เป็นวิธีการทางสถิติทีจะต้องเป็นไป ตามข้อตกลงเบืองต้น 3 ประการดังนี
- ข้อมูลทีเก็บรวบรวมได้จะต้องอยู่ในระดับช่วงขึนไป (Interval Scale)
- ข้อมูลทีเก็บรวบรวมได้จากกลุ่มตัวอย่างจะต้องมีการแจกแจงเป็นโค้งปกติ
- กลุ่มประชากรแต่ละกลุ่มทีนํามาศึกษาจะต้องมีความแปรปรวนเท่ากันสถิติทีอยู่ในประเภทนี เช่น t-test, Z-test, ANOVA, Regression ฯลฯ
- สถิติไร้พารามิเตอร์ (Nonparametric Statistics) เป็นวิธีการทางสถิติทีสามารถนํามาใช้ได้โดยปราศจากข้อตกลงเบืองต้นทัง ประการข้างต้น สถิติทีอยู่ในประเภทนี เช่น ไคสแควร์,Median Test, Sign test ฯลฯ
- สถิติมีพารามิเตอร์ (Parametric Statistics) เป็นวิธีการทางสถิติทีจะต้องเป็นไป ตามข้อตกลงเบืองต้น 3 ประการดังนี
โดยปกติแล้วนักวิจัยมักนิยมใช้สถิติมีพารามิเตอร์ทังนีเพราะผลลัพธ์ทีได้จากการใช้สถิติมีพารามิเตอร์มีอํานาจการทดสอบ (Power of Test) สูงกว่าการใช้สถิติไร้พารามิเตอร์ สถิติมีพารามิเตอร์เป็นการทดสอบทีได้มาตรฐาน มีขันตอนต่าง ๆ ทีสมบูรณ์ ดังนันเมือข้อมูลมีคุณสมบัติ ทีสอดคล้องกับข้อตกลงเบืองต้นสามประการในการใช้สถิติมีพารามิเตอร์จึงไม่มีผู้ใดคิดทีจะหันไปใช้สถิติไร้พารามิเตอร์ในการทดสอบสมมติฐาน
อํานาจการทดสอบ (Power of Test) ความน่าจะเป็นของการปฏิเสธสมมติฐานศูนย์เมือสมมติฐาน
ศูนย์เป็นเท็จ ดังนัน อํานาจการทดสอบทางสถิติ ก็คือความน่าจะเป็นในการตัดสินใจทีถูกต้อง